Tuesday, March 18, 2014
น้ำตาล พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ (นางเอก มัจจุราชสีน้ำผึ้ง) เข้าวงการครั้งแรก โดยการแสดงภาพยนตร์โฆษณา กับ Sky Exits Films เป็นเรื่องแรก ในชีวิตการแสดงของ น้ำตาล ... น้ำตาลสวยมากๆครับ กับหนังเรื่องแรก SCG Experience TV Commercial
น้ำตาล พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ (นางเอก มัจจุราชสีน้ำผึ้ง)
เข้าวงการครั้งแรก
โดยการแสดงภาพยนตร์โฆษณา กับ Sky Exits Films
เป็นเรื่องแรก ในชีวิตการแสดงของ น้ำตาล ...
น้ำตาลสวยมากๆครับ กับหนังเรื่องแรก
SCG Experience TV Commercial
โดยการแสดงภาพยนตร์โฆษณา กับ Sky Exits Films
เป็นเรื่องแรก ในชีวิตการแสดงของ น้ำตาล ...
น้ำตาลสวยมากๆครับ กับหนังเรื่องแรก
SCG Experience TV Commercial
Why do you live your life like others when you can choose to be yourself. This man is being an office man in the day and being as Elvis at night. He promises that he will never change his life style but why living your life as being other person. Nobel Home, the living style of yourself.
TVC Campaign: NOBLE HOME : [FAKE Elvis Presley: Michael Jackson: Jackie Chan ] http://www.skyexits.com/
Nobel Home : Fake Elvis Presley : TVC SkyExits.com
Product: NOBLE HOME
Title: Fake Elvis Presley
TVC Campaign: Elvis Presley: Michael Jackson: Jackie Chan
http://www.skyexits.com/
Agency: Ogilvy & Mather Bangkok
Production House: SKY EXITS FILMS PRODUCTION HOUSE
Bangkok Thailand
Film Director: AOD : Anurux Jansanjai
Synopsis:
Why do you live your life like others when you can choose to be yourself. This man is being an office man in the day and
being as Elvis at night. He promises that he will never change his life style but why living your life as being other person.
Nobel Home, the living style of yourself.
Nobel Home : Fake Elvis Presley
Nobel Home : Fake Michael Jackson : TVC SkyExits.com
Product: NOBLE HOME
Title: Fake Michael Jackson
TVC Campaign: Elvis Presley: Michael Jackson: Jackie Chan
http://www.skyexits.com/
Agency: Ogilvy & Mather Bangkok
Production House: SKY EXITS FILMS PRODUCTION HOUSE
Bangkok Thailand
Film Director: AOD : Anurux Jansanjai
Synopsis:
This man loved being Michael Jackson; He does the make up for 2 hours everyday, makes his own clothes.
He enjoys what he is doing for the living for 20 years. He is so proud being as Michael Jackson; the world super star.
But there is no point for living as other person but not yourself.
Nobel Home, the life style of yourself.
Nobel Home : Fake Michael Jackson
Nobel Home : Fake Jackie Chan : TVC SkyExits.com
Product: NOBLE HOME
Title: Fake Jackie Chan
TVC Campaign: Elvis Presley: Michael Jackson: Jackie Chan
http://www.skyexits.com/
Agency: Ogilvy & Mather Bangkok
Production House: SKY EXITS FILMS PRODUCTION HOUSE
Bangkok Thailand
Film Director: AOD : Anurux Jansanjai
Synopsis:
This man is so proud that he looks alike Jackie Chan; an Asian super star. Many people misunderstand as he is a real Jackie Chan,
what Jackie can do, so he can. But there is no point to live as being someone else.
Nobel Home, lives your life differently.
Nobel Home : Fake Jackie Chan
Nobel Home : Fake Elvis Presley : TVC SkyExits.com
Product: NOBLE HOME
Title: Fake Elvis Presley
TVC Campaign: Elvis Presley: Michael Jackson: Jackie Chan
http://www.skyexits.com/
Agency: Ogilvy & Mather Bangkok
Production House: SKY EXITS FILMS PRODUCTION HOUSE
Bangkok Thailand
Film Director: AOD : Anurux Jansanjai
Synopsis:
Why do you live your life like others when you can choose to be yourself. This man is being an office man in the day and
being as Elvis at night. He promises that he will never change his life style but why living your life as being other person.
Nobel Home, the living style of yourself.
Nobel Home : Fake Elvis Presley
Nobel Home : Fake Michael Jackson : TVC SkyExits.com
Product: NOBLE HOME
Title: Fake Michael Jackson
TVC Campaign: Elvis Presley: Michael Jackson: Jackie Chan
http://www.skyexits.com/
Agency: Ogilvy & Mather Bangkok
Production House: SKY EXITS FILMS PRODUCTION HOUSE
Bangkok Thailand
Film Director: AOD : Anurux Jansanjai
Synopsis:
This man loved being Michael Jackson; He does the make up for 2 hours everyday, makes his own clothes.
He enjoys what he is doing for the living for 20 years. He is so proud being as Michael Jackson; the world super star.
But there is no point for living as other person but not yourself.
Nobel Home, the life style of yourself.
Nobel Home : Fake Michael Jackson
Nobel Home : Fake Jackie Chan : TVC SkyExits.com
Product: NOBLE HOME
Title: Fake Jackie Chan
TVC Campaign: Elvis Presley: Michael Jackson: Jackie Chan
http://www.skyexits.com/
Agency: Ogilvy & Mather Bangkok
Production House: SKY EXITS FILMS PRODUCTION HOUSE
Bangkok Thailand
Film Director: AOD : Anurux Jansanjai
Synopsis:
This man is so proud that he looks alike Jackie Chan; an Asian super star. Many people misunderstand as he is a real Jackie Chan,
what Jackie can do, so he can. But there is no point to live as being someone else.
Nobel Home, lives your life differently.
Nobel Home : Fake Jackie Chan
#เรื่องสั้นอ่านแล้วจิตใจดี #เอามาจากไลน์กรุ๊ปเพื่อนตำรวจ #ตำรวจไทยควรอ่านเยอะๆ
#เรื่องสั้นอ่านแล้วจิตใจดี #เอามาจากไลน์กรุ๊ปเพื่อนตำรวจ
#ตำรวจไทยควรอ่านเยอะๆ
คนใจดำ เปลี่ยนแปลง ตัวเองได้... เพราะอะไร??
เรื่องเล่า… มีอยู่ว่า พี่ชิต แกเป็นคนใจดำครับ ชอบยิงนกตกปลาไปเรื่อย แต่ที่หนัก ก็คงเป็นเนื้อหมา แกกินแหลกครับ แม่แกบอก มันบาปนะลูก พี่แก ก็ไม่เคยสนใจ คำเตือนของแม่เลย
เมื่อราว 15 ปีก่อน มีเหตุการณ์ ที่ทำให้แกเปลี่ยนไป… ครั้งนั้น มีแม่หมาขี้เรื้อน ตัวหนึ่งครับ มันมักวิ่งไปหาของกิน แถวๆ บ้านแกบ่อย เพราะบ้านแกติดตลาด
ผมเคยถามพี่ชิต ที่กินหมา อยู่บ่อยๆ ว่า ทำไมไม่กินหมาขี้เรื้อน แกบอก “กินไม่ลงว่ะ"
มีอยู่วันหนึ่ง เนื้อแห้งที่แกตากไว้ หายไป พอมองไป ก็เห็นแม่หมาขี้เรื้อนนั้น วิ่งคาบเนื้อตากแห้ง ของแกอยู่ ความแค้นใจ และการฆ่า ที่อยู่ในสันดาน พี่ชิตคว้าไม้ ที่ใช้ตีหมาได้ ก็วิ่งตามไป อย่างรวดเร็ว พอตามทัน แกก็ทุบไปทีเดียว หมาขี้เรื้อนนั่น ล้มลงชักทันที (แกบอกว่า หากตีตรงจุด แค่ไม้เล็กๆ ธรรมดา ก็ตายได้ นี่คือคน ตีหมาจนชำนาญ)
พี่ชิตทิ้งซากหมา กองไว้อยู่ตรงนั้น โดยไม่ต้องเหลียวหน้าไปดูอีก เพราะตีมาเป็นร้อย ก็ไม่มีทางฟื้น และวันนี้ ด้วยความโมโห พี่ชิตจะกินหมาขี้เรื้อนตัวนี้ ที่ดันมากินเนื้อตากแห้ง และมาหยาม ถึงถิ่นของแก
พี่ชิตเดินกลับไปที่บ้าน เพื่อเตรียมอุปกรณ์ ในการแล่เนื้อ พร้อมกับสั่งให้ผม เฝ้าซากหมาขี้เรื้อนตัวนี้เอาไว้ แต่ผมก็มัวแต่เก็บตะขบ จนลืมดู
พอพี่ชิตมาถึง ก็โวยวายกับผมว่า ซากหมาหายไปไหน พร้อมกับวิ่งตาม รอยเลือด หมาขี้เรื้อนตัวนี้ พร้อมกับบ่นว่า... “ทำไมมันไม่ตายวะ”
สักพักหนึ่ง แกก็ได้ยินเสียงหมาเห่า แกก็ตามเสียงไปทันที พอไปถึง ภาพที่เห็นคือ หมาขี้เรื้อน กำลังจะตาย มันมีลูก ที่ต้องเลี้ยง 5 ตัวครับ วัยกำลังกินนมอยู่
บางตัวก็วิ่งไปคาบเนื้อ ที่แม่หมาขี้เรื้อน คาบไปฝาก (เห็นกับตา) แม่หมาขี้เรื้อน
ตัวนี้ มันตายแล้วฟื้น และที่มัน ยังไม่ยอมตาย ก็เพราะจิตใจอันเข้มแข็ง ของมัน ที่ปลุกเร้าเยื่อใย ที่คงเหลือ อย่างเหนียวแน่นว่า… ต้องกลับไปให้ได้ เพื่อให้ลูกมันกินนมครับ
การตีของพี่ชิตนั้น กระทบกระเทือน ถึงหัวสมองแตก เลือดสาดเป็นลิ่มๆ แต่มันก็ยัง ลากตัวมันเอง กระเสือกกระสน ล้มลุกคลุกคลาน เพื่อกลับมาหา ลูกของมันจนได้ และสิ่งที่เห็นคือ...
การกระทำที่ยิ่งใหญ่ ของความเป็นแม่ ที่รักลูกมากเป็นที่สุด โดยไม่ห่วงตัวจะตาย นี่จิตใจอันยิ่งใหญ่ของแม่ ที่ไม่ว่าสัตว์ หรือคน ก็มีจิตใจเช่นนี้ แม้มันจะตาย ก็ขอให้ลูกพวกมัน ได้อิ่มซักมื้อ
แม่หมาพยายาม อย่างดีที่สุดแล้วครับ ผมไม่อยากจะเชื่อ... นั่นคือ น้ำตา ของแม่หมาขี้เรื้อนตัวนั้น มันมองผมกับพี่ชิต เหมือนขอร้อง เป็นครั้งสุดท้าย ที่มันต้องการให้นมลูก ก่อนตาย
สายตาของมันเศร้ามาก มันมองผมกับพี่ชิต อย่างวิงวอนทางสายตา ที่ขอร้องของมัน เพื่อขอให้มัน ได้ให้นมลูกของมัน เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะตาย
พี่ชิต ไม้หล่นลงกับพื้น เดินเข้าไปดู แม่หมาขี้เรื้อนตัวนั้น ในยามนั้น... สิ่งที่แกเห็น ไม่ใช่หมาขี้เรื้อน แต่แกเห็นจิตใจ แห่งความเป็นแม่ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งทนเจ็บปางตาย เพื่อกลับไปหาลูกให้ได้
แกไม่พูดอะไร... ทุกอย่างจุกอยู่ที่ลำคอ... สายตาพี่ชิต ที่แข็งกร้าว กลับอ่อนโยนลง พร้อมกับมีลูกหมาตัวหนึ่ง วิ่งไปหาแก กระดิกหางให้ แกอุ้มลูกหมาขึ้น พร้อมมองไปที่ สายตา ของแม่หมาขี้เรื้อนนั้น อย่างสำนึกผิด และพูดคำว่า "ขอโทษ” พูดได้แค่นั้น แม่หมาก็สิ้นใจตาย อย่างตาหลับ
ผมกับพี่ชิต ช่วยกันฝังแม่หมาตัวนี้... พร้อมๆ กับจิตสำนึก ที่เกิดใหม่ ของพี่ชิต ที่เปลี่ยนไป ราวกับคนละคน แกรับเลี้ยง ลูกหมานั้นไว้ ทั้ง 5 ตัว และตั้งแต่นั้น แกกลายเป็นคนใจดี ไม่ไล่ยิงนก ยิงหมา ยิงแมวอีก แกบอกว่า... "มันอาจจะมี ลูกรออยู่ก็ได้”
วันเกิดของแม่ ปีที่แล้ว แกเอามะลิ ร้อยเป็นพวง ไปให้แม่ ทั้งๆ ที่ ไม่เคยทำมาก่อน พี่ชิตกราบแม่ พร้อมพูดกับแม่ว่า "แม่ครับ... ตอนผมอายุ 16 แม่สอนผม ยังไงนะ สอนอีกหน ได้ไหมครับ" แม่แกน้ำตาคลอ พูดไม่ออก
#ตำรวจไทยควรอ่านเยอะๆ
คนใจดำ เปลี่ยนแปลง ตัวเองได้... เพราะอะไร??
เรื่องเล่า… มีอยู่ว่า พี่ชิต แกเป็นคนใจดำครับ ชอบยิงนกตกปลาไปเรื่อย แต่ที่หนัก ก็คงเป็นเนื้อหมา แกกินแหลกครับ แม่แกบอก มันบาปนะลูก พี่แก ก็ไม่เคยสนใจ คำเตือนของแม่เลย
เมื่อราว 15 ปีก่อน มีเหตุการณ์ ที่ทำให้แกเปลี่ยนไป… ครั้งนั้น มีแม่หมาขี้เรื้อน ตัวหนึ่งครับ มันมักวิ่งไปหาของกิน แถวๆ บ้านแกบ่อย เพราะบ้านแกติดตลาด
ผมเคยถามพี่ชิต ที่กินหมา อยู่บ่อยๆ ว่า ทำไมไม่กินหมาขี้เรื้อน แกบอก “กินไม่ลงว่ะ"
มีอยู่วันหนึ่ง เนื้อแห้งที่แกตากไว้ หายไป พอมองไป ก็เห็นแม่หมาขี้เรื้อนนั้น วิ่งคาบเนื้อตากแห้ง ของแกอยู่ ความแค้นใจ และการฆ่า ที่อยู่ในสันดาน พี่ชิตคว้าไม้ ที่ใช้ตีหมาได้ ก็วิ่งตามไป อย่างรวดเร็ว พอตามทัน แกก็ทุบไปทีเดียว หมาขี้เรื้อนนั่น ล้มลงชักทันที (แกบอกว่า หากตีตรงจุด แค่ไม้เล็กๆ ธรรมดา ก็ตายได้ นี่คือคน ตีหมาจนชำนาญ)
พี่ชิตทิ้งซากหมา กองไว้อยู่ตรงนั้น โดยไม่ต้องเหลียวหน้าไปดูอีก เพราะตีมาเป็นร้อย ก็ไม่มีทางฟื้น และวันนี้ ด้วยความโมโห พี่ชิตจะกินหมาขี้เรื้อนตัวนี้ ที่ดันมากินเนื้อตากแห้ง และมาหยาม ถึงถิ่นของแก
พี่ชิตเดินกลับไปที่บ้าน เพื่อเตรียมอุปกรณ์ ในการแล่เนื้อ พร้อมกับสั่งให้ผม เฝ้าซากหมาขี้เรื้อนตัวนี้เอาไว้ แต่ผมก็มัวแต่เก็บตะขบ จนลืมดู
พอพี่ชิตมาถึง ก็โวยวายกับผมว่า ซากหมาหายไปไหน พร้อมกับวิ่งตาม รอยเลือด หมาขี้เรื้อนตัวนี้ พร้อมกับบ่นว่า... “ทำไมมันไม่ตายวะ”
สักพักหนึ่ง แกก็ได้ยินเสียงหมาเห่า แกก็ตามเสียงไปทันที พอไปถึง ภาพที่เห็นคือ หมาขี้เรื้อน กำลังจะตาย มันมีลูก ที่ต้องเลี้ยง 5 ตัวครับ วัยกำลังกินนมอยู่
บางตัวก็วิ่งไปคาบเนื้อ ที่แม่หมาขี้เรื้อน คาบไปฝาก (เห็นกับตา) แม่หมาขี้เรื้อน
ตัวนี้ มันตายแล้วฟื้น และที่มัน ยังไม่ยอมตาย ก็เพราะจิตใจอันเข้มแข็ง ของมัน ที่ปลุกเร้าเยื่อใย ที่คงเหลือ อย่างเหนียวแน่นว่า… ต้องกลับไปให้ได้ เพื่อให้ลูกมันกินนมครับ
การตีของพี่ชิตนั้น กระทบกระเทือน ถึงหัวสมองแตก เลือดสาดเป็นลิ่มๆ แต่มันก็ยัง ลากตัวมันเอง กระเสือกกระสน ล้มลุกคลุกคลาน เพื่อกลับมาหา ลูกของมันจนได้ และสิ่งที่เห็นคือ...
การกระทำที่ยิ่งใหญ่ ของความเป็นแม่ ที่รักลูกมากเป็นที่สุด โดยไม่ห่วงตัวจะตาย นี่จิตใจอันยิ่งใหญ่ของแม่ ที่ไม่ว่าสัตว์ หรือคน ก็มีจิตใจเช่นนี้ แม้มันจะตาย ก็ขอให้ลูกพวกมัน ได้อิ่มซักมื้อ
แม่หมาพยายาม อย่างดีที่สุดแล้วครับ ผมไม่อยากจะเชื่อ... นั่นคือ น้ำตา ของแม่หมาขี้เรื้อนตัวนั้น มันมองผมกับพี่ชิต เหมือนขอร้อง เป็นครั้งสุดท้าย ที่มันต้องการให้นมลูก ก่อนตาย
สายตาของมันเศร้ามาก มันมองผมกับพี่ชิต อย่างวิงวอนทางสายตา ที่ขอร้องของมัน เพื่อขอให้มัน ได้ให้นมลูกของมัน เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะตาย
พี่ชิต ไม้หล่นลงกับพื้น เดินเข้าไปดู แม่หมาขี้เรื้อนตัวนั้น ในยามนั้น... สิ่งที่แกเห็น ไม่ใช่หมาขี้เรื้อน แต่แกเห็นจิตใจ แห่งความเป็นแม่ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งทนเจ็บปางตาย เพื่อกลับไปหาลูกให้ได้
แกไม่พูดอะไร... ทุกอย่างจุกอยู่ที่ลำคอ... สายตาพี่ชิต ที่แข็งกร้าว กลับอ่อนโยนลง พร้อมกับมีลูกหมาตัวหนึ่ง วิ่งไปหาแก กระดิกหางให้ แกอุ้มลูกหมาขึ้น พร้อมมองไปที่ สายตา ของแม่หมาขี้เรื้อนนั้น อย่างสำนึกผิด และพูดคำว่า "ขอโทษ” พูดได้แค่นั้น แม่หมาก็สิ้นใจตาย อย่างตาหลับ
ผมกับพี่ชิต ช่วยกันฝังแม่หมาตัวนี้... พร้อมๆ กับจิตสำนึก ที่เกิดใหม่ ของพี่ชิต ที่เปลี่ยนไป ราวกับคนละคน แกรับเลี้ยง ลูกหมานั้นไว้ ทั้ง 5 ตัว และตั้งแต่นั้น แกกลายเป็นคนใจดี ไม่ไล่ยิงนก ยิงหมา ยิงแมวอีก แกบอกว่า... "มันอาจจะมี ลูกรออยู่ก็ได้”
วันเกิดของแม่ ปีที่แล้ว แกเอามะลิ ร้อยเป็นพวง ไปให้แม่ ทั้งๆ ที่ ไม่เคยทำมาก่อน พี่ชิตกราบแม่ พร้อมพูดกับแม่ว่า "แม่ครับ... ตอนผมอายุ 16 แม่สอนผม ยังไงนะ สอนอีกหน ได้ไหมครับ" แม่แกน้ำตาคลอ พูดไม่ออก
Subscribe to:
Posts (Atom)